ชวนเที่ยวเมืองเชฟชาอูน

เมืองเชฟชาอูน เป็นเมืองเก่าแก่ที่สุดอยู่ทางตอนเหนือของประเทศโมร็อกโก เมืองนี้เหมาะสำหรับสายถ่ายรูปมาก เพราะไม่ว่าจะถ่ายมุมไหนก็ออกมาสวย ด้วยเสน่ห์ของสี ฟ้า-น้ำเงิน” ของเมืองทั้งเมืองที่มีความเชื่อว่าเป็นสีสัญลักษ์ของท้องฟ้าและเทพพระเจ้า   เมืองเชฟชาอูน (Chefchaouen) เป็นเมืองที่มีวิวทิวทัศน์ที่สวยงามของธรรมชาติ

เป็นเมืองที่ถูกล้อมด้วยหุบเขารีฟ (Rif Montain) บ้านเมืองดูสะอาดตา สีสันสวยงามทำให้เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยว นอกจากนี้เมืองเชฟซาอูนยังเป็นแหล่งปลูกกัญชาที่อุดมสมบูรณ์ที่สุดของประเทศโมร็อกโกอีกด้วย หากใครได้มีโอกาสไปเที่ยวโมร็อกโกบอกเลยว่าเมืองนี้คือ ห้ามพลาดจริงๆ 

ไปขี่อูฐนอนค้างที่ทะเลทรายซาฮาร่ากัน

ทะเลทรายซาฮาร่าถือว่าเราได้ชื่อมายาวนานพอสมควรวันนี้เราจะพาท่านมารู้จักทะเลทรายซาฮาร่ากันว่าจริงๆแล้วเป็นอย่างทะเลทรายสะฮารา มีความกว้างขวางถึง 9,000,000 ตารางกิโลเมตร ใหญ่กว่าทวีปออสเตรเลียทั้งทวีป มีขนาดพื้นที่พอ ๆ กับสหรัฐอเมริกา และเป็นเนื้อที่ 1 ใน 3 ของทวีปแอฟริกาทั้งหมด แต่นับเป็นทะเลทรายที่ถือกำเนิดได้ราว 2,000 ปีเท่านั้น โดยเกิดจากความแห้งแล้งลงของภูมิภาคแอฟริกาเหนือ ซึ่งในอดีตเมื่อกว่า 4,000 ปีก่อน ณ ที่แห่งนี้ยังเป็นดินแดนที่มีความอุดมสมบูรณ์คล้ายโอเอซิส มีแม่น้ำ และสัตว์ป่าขนาดใหญ่มากมายอาศัยอยู่ โดยปรากฏเป็นหลักฐานทางโบราณคดี คือ ภาพเขียนสีบนผนังถ้ำของมนุษย์ในยุคนั้น

เป็นทะเลทรายขนาดใหญ่ที่สุดของโลก และเป็นบริเวณแห้งแล้งใหญ่สุดเป็นอันดับสามรองจากทวีปแอนตาร์กติกาและอาร์กติก มีเนื้อที่มากกว่า 9,000,000 ตารางกิโลเมตร หรือ 3,500,000 ตารางไมล์ทะเลทรายสะฮารา แม้จะได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในสถานที่ ที่ร้อนและแห้งแล้งที่สุดในโลก แต่ทว่าทะเลทรายแห่งนี้ก็ยังมีปรากฏการณ์หิมะตก ในวันที่ 18 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1979 ที่เมืองอินเซฟรา ในแอลจีเรีย มีหิมะตก แต่ทว่าละลายไปในเวลาเพียงครึ่งชั่วโมงเท่านั้น จากนั้นอีก 37 ปีต่อมา ในปลายปี ค.ศ. 2016 ที่เมืองนี้ก็มีหิมะตกนับเป็นครั้งที่สอง โดยคราวนี้คงสภาพอยู่ได้ประมาณหนึ่งวัน ก่อนจะละลายหายไปในที่สุด

สุสานแห่งกษัตริย์ฮัสซันที่2

เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่เราต้องมีเยือนเพราะถือว่า สุสานแห่งกษัตริย์ฮัสซันที่2 นั้นมีความสวยงามสุสานขนาดใหญ่ริมทะเลในประเทศโมร็อคโคเราจะได้รู้เรื่องราวความสำคัญประวัติศาสตร์อันสำคัญของที่แห่งนี้ ซึ่งสุสานแห่งกษัตริย์ฮัสซันที่2ตั้งอยู่ในเมืองคาซาบลังการิมมหาสมุทรแอตแลนติก

สุสานแห่งนี้สร้างเสร็จสมบูรณ์ในปีค.ศ. 1993 โดย มิเชล แปงโช สถาปนิกชาวฝรั่งเศสเนื่องในวาระเฉลิมพระชนม์ครบ 60 พรรษาของกษัตริย์ฮัสซันที่ 2 หรือพระราชาองค์ก่อนของประเทศ  มีความสำคัญในฐานะเป็นศาสนสถานที่ได้รับความนิยมและมีขนาดใหญ่ที่สุดของประเทศโมร็อคโค ด้วยการสร้างสรรค์สถาปัตยกรรมแบบศิลปะโมร็อคโค(Morocco) ผสมผสานกับศิลปะพื้นเมืองที่รวบรวมความหรูหราและยิ่งใหญ่ตระการตา ทั้งการออกแบบให้มีพื้นที่หลายส่วน ไม่ว่าจะเป็นห้องชำระล้างก่อนทำละหมาด (purification halls) และห้องโถงทำพิธีละหมาด(Prayer Hall)ที่จุคนได้ถึง 25000 คน ภายในมีการใช้หินอ่อนและแผ่นกระเบื้องสี (zellij-tilework) โดยเฉพาะสีขาวเขียวอันเป็นเอกลักษณ์ของศาสนาอิสลามประดับอาคาร มีการใช้ไม้ซีด้าแกะสลักและตกแต่งอย่างละเอียดบรรจง รวมถึงมีการสร้างหอสูง (minaret) ที่สูงที่สุดในโลกด้านล่างของสุสาน และที่สำคัญสุสานแห่งนี้ยังมีการใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยในการออกแบบส่วนต่างๆ ทั้งการติดเครื่องทำความร้อนใต้พื้นเพื่อความอบอุ่นในฤดูหนาว และมีประตูเหล็กบานใหญ่ที่ใช้ระบบไฟฟ้าในการเปิด-ปิด อีกด้วย

     สุสานแห่งกษัตริย์ฮัสซันที่2 (Hassan II Mosque) สุสานที่เดินทางง่ายและเปิดกว้างสำหรับผู้เข้าชมทุกคน สุสานแห่งกษัตริย์ฮัสซันที่2 (Hassan II Mosque) ตั้งอยู่ห่างจากสถานีรถไฟการ์ คาซา พอร์ท(Gare Casa Port) ประมาณ 2 กิโลเมตร เปิดให้เข้าชมสำหรับผู้ชมทุกศาสนา โดยเสียค่าบริการ 120 DH ต่อคน เวลาเข้าชมนั้นแตกต่างกันในแต่ละฤดูกาล สามารถตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์หลักของสุสาน

“โมร็อกโค” (MOROCCO) เสน่ห์แห่งโลกตะวันออกกลาง ดินแดนฟ้าจรดทราย

โมร็อกโค (MOROCCO) ได้รับการขนานนามว่าเป็น “เอล มาห์กริบ อัล อัค ซา” (EL MAHGRIB AL AQSA) ซึ่งหมายถึงดินแดนทางทิศตะวันตกไกลที่สุด ที่นี่เป็นดินแดนเมืองหนาวที่มีแดดอันร้อนแรง หรือเป็นประเทศที่เย็นที่สุดในหมู่ประเทศที่ร้อนที่สุด เนื่องจากภูมิประเทศอันหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นบริเวณที่ตั้งซึ่งอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือสุดของทวีปแอฟริกา

เมืองคาซาบลังก้า (CASABLANCA) มีความหมายในภาษาสเปนว่าบ้านสีขาว ซึ่งเป็นเช่นนั้นจริงๆ แต่ปัจจุบันนี้บ้านเรือนของพวกเขามีสีขาว เป็นเมืองใหญ่อันดับหนึ่งของราชอาณาจักรโมร็อกโก (Kingdom of Morocco) ตั้งอยู่ริมมหาสมุทรแอตแลนติก ทางฝั่งตะวันตกของประเทศ หลายคนอาจเคยได้ยินชื่อของ “คาซาบลังกา” จากภาพยนตร์ในชื่อ Casablanca (สร้างปีค.ศ.1942) แม้ว่าในความเป็นจริงภาพยนตร์ดังกล่าวไม่ได้ใช้ฉากที่ถ่ายทำในคาซาบลังกาเลยแต่ก็ทำให้เมืองนี้มีชื่อเสียงไปทั่วโลกได้เช่นกัน

Casablanca เป็นภาพยนตร์รักอเมริกันในกาซาบล็องกา เมืองท่าทางตอนเหนือโมร็อกโก ภาพยนตร์กล่าวถึงความขัดแย้งและการตัดสินใจของชายคนหนึ่ง ที่ต้องเลือกระหว่างความรัก กับการช่วยเหลือสามีของเธอในการต่อสู้ต้านทานนาซี อีกหนึ่งเสน่ห์ของหนังเรื่องนี้คือ ความ “แฟนตาซี” และ “เอ็กโซติก” ที่นำเสนอออกมา ทำให้เมืองคาซาบลังก้ากลายเป็นที่รู้จัก และโด่งดังมีชื่อเสียงไปทั่วโลก

จุดหมายที่ไม่ควรพลาด กับการไปเยือนเมืองคาซาบลังก้า ได้แก่ สุเหร่าแห่งกษัตริย์ฮัสซันที่ 2 (Hassan II Mosque) มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 3 รองจากเมืองเมกกะ สุเหร่านี้งดงามประณีตด้วยสถาปัตยกรรมแบบโมร็อกโคทุกแขนง ชมวิวทิวทัศน์รอบๆ และสุเหร่าแห่งนี้ยังเป็นจุดชมวิวบรรยากาศริมชายฝั่งทะเลอีกด้วยค่ะ

เมืองเชฟชาอูน (CHEFCHAOUEN) Blue City นครสีฟ้า เมืองซึ่งได้ขนานนามว่า “มนต์เสน่ห์แห่งโมร็อคโค” เป็นเมืองที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 538 ปี มีสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติสวยงาม อากาศบริสุทธิ์และความสะอาดของเมืองได้สร้างบรรยากาศผ่อนคลายสบายๆ จากเหนื่อยล้ามาจากการตระเวนเที่ยวที่เมืองอื่นได้ผ่อนคลาย มีสถาปัตยกรรมที่ยอดเยี่ยม อีกทั้งยังเป็นเมืองที่มีเสน่ห์ และมีชื่อเสียงมากที่สุดด้วยความโดดเด่นของอาคารบ้านเรือนที่ทาเป็นสีฟ้าทั้งหมดด้วยค่ะ

สาเหตุที่เมืองเชฟชาอูนถือว่าเป็นสวรรค์ของคนรักสีฟ้าและสีขาว โดยเฉพาะสีฟ้า นั่นก็เพราะว่าเชฟชาอูนเป็นเมืองที่บ้านเรือนเกือบทุกหลังเป็นสีขาว และมีครึ่งล่างไปจนถึงบริเวณถนน บันได และทางเดิน เป็นสีฟ้าสดใสเหมือนวันที่ท้องฟ้าไร้เมฆ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของเทพเจ้า เพื่อเป็นการระลึกถึงพระเจ้านั่นเอง

ทะเลทรายซาฮารา (SAHARA DESERT) เป็นทะเลทรายที่มีอาณาเขตกว้างใหญ่ที่สุดในโลกคือ มีเนื้อที่ประมาณ 9.3 ล้านตารางกิโลเมตร (ใหญ่เท่าอเมริกาทั้งประเทศ) และตั้งอยู่ทางตอนเหนือของทวีปแอฟริกา ให้ท่านได้สัมผัสบรรยากาศยามเช้าในทะเลทรายซาฮาร่า จากสภาพการไร้ฝนและอุณหภูมิที่ร้อนจัดในทะเลทรายมีผลทำให้ความชื้นสัมพัทธ์ของอากาศเหนือทะเลทราย กิจกรรมที่น่าสนใจของสถานที่แห่งนี้ก็คือ ขี่อูฐเพื่อไปชมพระอาทิตย์ขึ้นที่เนินทรายในทะเลทรายซาฮารา

เมืองมาราเกช (MARRAKECH) ซึ่งเป็นเมืองท่องเที่ยวที่สำคัญเชิงเขาแอตลาส ในอดีตเมืองโอเอซิสนี้เป็นที่พักของกองคาราวานอูฐที่มาจากทางตอนใต้ของโมรอคโค เป็นเส้นทางของพ่อค้าตะวันออกกลาง ปัจจุบันเป็นเมืองที่มีนักท่องเที่ยวมาเยือนมากที่สุด

สภาพบ้านเมืองที่เห็นได้ชัดคือ ทางเดินที่ทอดตัวยาวสองข้างทางแวดล้อมด้วยบ้านเรือนที่ถูกฉาบด้วยปูนสีส้มๆ คนท้องถิ่นจะเรียกว่า Pink City หรือเมืองสีชมพู อาจกล่าวได้ว่ามาราเกชเป็นเมืองที่มีเสน่ห์ที่สุดในโลกแห่งหนึ่งและยังมีสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ ที่น่าสนใจ เช่น

มัสยิด คูตูเบีย (Koutoubia Mosque) ซึ่งเป็นมัสยิดใหญ่เก่าแก่ที่สุดในเมืองมาราเกช ไม่ว่าจะเดินไปแห่งใดในตัวเมืองก็จะเห็นมัสยิดนี้ได้ ถูกสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1147 เพื่อประกาศชัยชนะของชาวมุสลิมที่ได้นำศาสนาเข้ามาเผยแผ่ได้อย่างสำเร็จ แต่มัสยิดแห่งนี้ผู้ที่ไม่ได้นับถือศาสนาอิสลามไม่สามารถเข้าไปชมด้านในมัสยิดได้ สามารถเดินถ่ายรูปในบริเวณลานด้านนอกรอบๆ ตัวอาคารได้

โมรอคโค เสน่ห์แห่งโลกตะวันออกกลางบนดินแดนแอฟริกา

โมรอคโค (Morocco) เสน่ห์แห่งโลกตะวันออกกลางบนดินแดนแอฟริกา

เที่ยว “โมรอคโค” ประเทศทางตอนเหนือของทวีปแอฟริกา มีพื้นที่ติดต่อทั้งชายฝั่งมหาสมุทรแอตแลนติกเหนือและทะเลเมดิเตอร์เรเนียน มีชายแดนทางตอนใต้ติดกับทางตะวันตกของทะเลทรายซาฮาร่า ทางตะวันออกติดกับแอลจีเรียและอาณานิคมเล็ก ๆ ของชาวสเปนนิชแอฟริกันซึ่งตั้งอยู่บนชายฝั่งทางตอนเหนือของทะเลเมดิเตอร์เรเนียน

ด้วยระยะทางที่ตั้งอยู่ไม่ไกลจากประเทศทางยุโรปมากนัก โมรอคโคมีทุกสิ่งที่จะทำให้เหล่านักท่องเที่ยวหลงรักในสีสัน กลิ่นอายและเสียงเพรียกแห่งโลกตะวันออกกลางบนดินแดนแอฟริกาแห่งนี้ ตลาดกลางแจ้งที่เต็มไปด้วยผู้คนและร้านค้าขายเครื่องเทศ มัสยิดที่แสนงดงาม เมืองเรียบชายหาดสีขาวและใจกลางเมืองที่ยังคงความดั้งเดิมในแบบสมัยยุคกลาง และด้วยทัศนีย์ภาพที่หลากหลายของประเทศตั้งแต่ยอดเขาที่ปกคลุมไปด้วยหิมะจนถึงทัศนีย์ภาพของทะเลทรายซาฮาร่าที่กว้างไกลสุกลูกหูลูกตา เป็นที่แน่ชัดว่าทุกคนที่มาเยี่ยมเยือนโมรอคโคจะไม่มีทางรู้สึกเบื่อประเทศที่งดงามแห่งนี้อย่างแน่นอน

การเดินทางท่องเที่ยวโมรอคโคหากเริ่มจาก เที่ยวที่เมืองคาซาบลังกา (Casablanca) จะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดเพราะว่าเมืองแห่งนี้เป็นเมืองท่าที่ใหญ่และมีชื่อเสียงที่สุดในประเทศ ทั้งยังเป็นที่ตั้งของ มัสยิด Hassan II Mosque มัสยิดที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับสองของโลก รองจากมัสยิดแห่งเมืองเมกกะ ประเทศซาอุดิอาราเบีย โดยทั่วไปแล้วนักท่องเที่ยวมักจะใช้เวลาในการท่องเที่ยวเมืองแห่งนี้ไม่นาน แต่เพียงการได้ชมสถาปัตยกรรมการตกแต่งบ้านเมืองของที่นี่ก็ถือว่าคุ้มค่ากับการมาเยือนแล้ว

เมื่อออกจากเมืองคาซาบลังกาแล้วสามารถมุ่งหน้าไป เที่ยวที่เมืองมาราเกช ซึ่งเป็นที่รู้จักในอีกชื่อหนึ่งว่า “นครสีชมพู” เนื่องจากเมืองนี้มีลักษณะโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ด้วยสีของตึกรามบ้านช่องตั้งแต่อดีต สร้างความประทับตราตึงใจให้แก่ผู้พบเห็นตั้งแต่ครั้งแรกที่ก้าวเข้ามาในเมือง สถานที่น่าสนใจในเมืองนี้คือตลาดกลางแจ้งที่คึกคักไปด้วยผู้คน ประตูและกำแพงเมืองเก่าแก่ หลุมฝังศพ Saadian ซากปรักหักพังของปราสาท El Badi และมัสยิด Koutoubia และหอสูงประจำสุเหร่าที่มีอายุเก่าแก่กว่า 12 ศตวรรษ ก่อนพระอาทิตย์ตกดินไม่ควรลืมเดินทางไปแวะย่าน Jamaa el-Fnaa จัตุรัสที่ใหญ่ที่สุดในแอฟริกา เป็นแหล่งรวบรวมร้านขายอาหารและพื้นที่แสดงความสามารถอันหลากหลายของชาวมาราเกช

หนึ่งสถานที่ที่พลาดไม่ได้เลยคือ Aït Benhaddou เมืองป้อมปราการเก่าแก่ที่ตั้งอยู่ตามเส้นทางคาราวานระหว่างทะเลทรายซาฮาร่าและเมืองมาราเกช ปัจจุบันเมืองแห่งนี้เป็นทั้งที่อยู่อาศัยของคนท้องถิ่นบางส่วนและพ่อค้าที่ขายสินค้าหลากหลายให้แก่นักท่องเที่ยวที่มาเยือน ลักษณะของตัวบ้านเรือนทำจากดินเหนียวสีแดงทั้งหลัง นับว่าเป็นต้นแบบที่ล้ำค่าของสถาปัตยกรรมการสร้างบ้านด้วยดินเหนียวสไตล์โมรอคโค

อีกเมืองที่น่าสนใจไม่แพ้กันคือเมืองเฟส อดีตเมืองหลวงที่ยังคงความงดงามจากอดีตจวบจนปัจจุบัน เสน่ห์ของเมืองคือถนนเก่าแก่ตั้งแต่สมัยยุคกลางที่มีเส้นทางคดเคี้ยวคล้ายกับเขาวงกต ประตูเมือง และมหาวิทยาลัยโบราณ University of Al-Karaouine และ Bou Inania Madrasa นอกจากนี้ไม่ควรพลาดแวะชมกรรมวิธีการฟอกเครื่องหนังแบบดั้งเดิมที่โรงงาน Chouara Tannery โรงงานย้อมฟอกหนังที่เก่าแก่และใหญ่ที่สุดในเมือง ตั้งอยู่ที่ Blida street Fez Medina และเนื่องจากโรงงานตั้งอยู่ท่ามกลางถนนที่ค่อนข้างแคบ การเดินทางไปที่แห่งนี้จึงสามารถเดินทางไปได้ด้วยการเดินเท้าเท่านั้น

เพื่อเป็นการเพิ่มประสบการณ์ให้ชีวิตก่อนจบทริปการท่องเที่ยวในโมรอคโค ไม่ควรพลาดแวะรับลมทะเลที่เมืองอซิลาห์ หรือเอสเซาอิร่า นอกจากนี้ยังมีนครสีฟ้า “เชฟชาอูน” ซึ่งตั้งอยู่ไม่ไกลจากเมืองเฟส และภูเขาแอตลาสให้นักท่องเที่ยวได้เดินทางไปสำรวจอีกด้วย

What to buy: ของฝากและของที่ระลึกที่ประเทศทางทวีปแอฟริกาและตะวันออกกลางมีขายโดยทั่วไปซึ่งก็คือผลอินทผลัม พรหม เครื่องเซรามิกและเครื่องหนัง ส่วนสินค้าที่หาซื้อได้เฉพาะในโมรอคโคได้แก่ทาจีน เครื่องปั้นดินเผาที่ผ่านการเคลือบอย่างดีสร้างขึ้นมาเพื่อใช้ในครัวเรือน

How to go: สำหรับการเดินทางไปที่โมรอคโคสามารถใช้บริการเดินทางจากสายการบิน Turkish Airlines หรือ Emirates ก็ได้ ซึ่งการเข้าประทศในแต่ละครั้งนักท่องเที่ยวจะต้องเสียค่าเข้าประเทศ 17 ปอนด์ หรือคิดเป็นเงินไทยราว ๆ 740 บาท

สถานที่ท่องเที่ยวโมร๊อคโก

มนต์เสน่ห์โมร็อกโก

“มนต์เสน่ห์แห่งโมร็อกโก ดินแดนหรรษาบนทะเลทราย”

Journista จะพาคุณมารู้จักประเทศโมร็อกโกดินแดนที่เชื่อมต่อของแอฟริกาตะวันตกกับยุโรป ดินแดนที่มีความน่าหลงไหลไม่แพ้ประเทศอื่น โมร็อกโกมีชื่อทางการว่า “ราชอาณาจักรโมร็อกโก” เป็นรัฐเดี่ยวและรัฐเอกราช ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของทวีปแอฟริกา มีอาณาเขตติดกับทะเลเมดิเตอร์เรเนียน และมหาสมุทรแอตแลนติก มีเมืองหลวงชื่อราบัตและมีเมืองใหญ่สุดคือกาซาบล็องกา กาซาบล็องกาเป็นเมืองที่ครึกครื้นที่สุดของโมร็อกโกเป็นแหล่งธุรกิจที่ใหญ่ที่สุดของประเทศมีงานศิลปะที่น่าตื่นเต้นเป็นที่สุด มีดีไซน์เนอร์ที่สร้างสรรค์ที่สุด

โมร็อกโกมีเมืองที่น่าเที่ยวมากมายจนคุณคิดไม่ถึงแต่วันนี้ Journista จะแนะนำบางเมืองให้คุณได้รู้จัก

  • เมืองกาซาบล็องกามีสถานที่เที่ยวมากมาย อย่าง ตลาดกลาง (Central Market) ซึ่งมีอาหารทะเลสด ๆ ใหม่ ๆ คุณภาพเต็มๆจากท้องทะเลแถบเมดิเตอร์เรเนียน มาวางเรียงรายขายกันทั้งตลาด มีสถานที่ที่น่าท่องเที่ยวคือ สุเหร่ากษัตริย์ฮัสซันที่ 2 , ชายทะเลย่านไอน์เดียบ ฯลฯ
  • เมืองราบัตเป็นเมืองหลวงของโมร็อกโก มีสถานที่ที่น่าท่องเที่ยวคือ ป้อมไอดูยะ , สุสานกษัตริย์โมฮัมเหม็ดที่ 5 , พระราชวังหลวง ฯลฯ
  • เมืองมาร์ราเกซเป็นเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับสองรองจาก กาซาบล็องกาและเป็นหนึ่งในสี่เมืองแห่งราชอาณาจักร อิมพีเรียลซิตี้ ได้แก่ ราบัต เพซ เมกเนส และมาร์ราเกซ สถานที่ท่องเที่ยวของเมืองมาร์ราเกช คือ พระราชวังบาเฮีย , สุสานแห่งราชวงศ์ซาเดียน , มัสยิด คูตูเบีย ฯลฯ
  • เมืองเฟสเป็นเมืองที่เก่าแก่ที่สุดของโมร็อกโก เมืองโบราณสุดคลาสสิคที่ได้ขึ้นทะเบียนมรดกโลกทางประวัติศาสตร์ มีสถานที่ท่องเที่ยวน่าไปคือพระราชวังเมืองเฟส (Fes) , เมืองเฟสในเขตเมืองเก่า ฯลฯ

โมร็อกโกมีเมืองอีกมากมายและสถานที่ท่องเที่ยวอีกเยอะที่จะให้คุณได้ไปเที่ยวชมความสวยงามของประเทศโมร็อกโก

5 ที่พักสไตล์โมร็อกโกริมทะเล ดีไซน์เก๋ไก๋โดนใจสายชิค บรรยากาศโคตรโรแมนติก

Morocco ประเทศแห่งทะเลทรายซาฮารา ดินแดนทางตะวันตกเฉียงเหนือสุดของทวีปแอฟริกา ที่มีอารยธรรมเก่าแก่โบราณ ใกล้ชายฝั่งมหาสมุทรแอตแลนติกและทะเลเมดิเตอร์เรเนียน มีสถาปัตยกรรมที่สวยงามและด้วยความโดดเด่นของทางเข้าเมืองเก่าประตูสีฟ้า Blue Gate ศิลปะของชาวอิสลาม ตกแต่งด้วยกระเบื้องเคลือบ งานเซลลิจฟ้าสลับขาวสวยงาม ประตูบานโค้งนี้จึงกลายเป็นเอกลักษณ์ของโมร็อกโกอันวิจิตรบรรจง จนหลากหลายสถานที่นำมาสร้างเป็นที่พัก รีสอร์ท และเมื่อได้มองเห็นประตูโค้งทรงนี้จะต้องนึกถึงประเทศโมร็อกโกทันที วันนี้ทริปเก็ทเตอร์จึงเสาะหาที่พักที่ยกเอาโมร็อกโกมาไว้ให้คุณในประเทศไทยแล้ว บอกเลยแต่ละที่นั้นสวยงามและออกแบบได้วิจิตรบรรจงไม่แพ้ประเทศโมร็อกโกเลยทีเดียว

1.วิลล่า มาร็อก รีสอร์ท, ประจวบคีรีขันธ์
(Villa Maroc Resort)

เริ่มต้นด้วยที่พักที่เมื่อก้าวเท้าเข้ามาแล้ว เหมือนหลุดเข้ามาสู่โมร็อกโก ด้วยการออกแบบอาคารสีสันเจิดจรัส และห้องพักที่ถ่ายทอดเอาสถาปัตยกรรมและศิลปะอันสวยงามทั้งภายในและภายนอก อีกทั้งการใช้ประตูทรงโค้งอันเป็นเอกลักษณ์ และความสวยงามของโมร็อกโกถ่ายทอดออกมาได้อย่างเต็มรูปแบบ ไม่ว่าจะเดินไปส่วนไหนของโรงแรมก็เหมือนอยู่โมร็อกโก ที่นี่มีห้องพักทั้งหมด 15 ห้อง 5 รูมไทป์ ได้แก่ Pool Courts, Pool Villas, One-Bedroom Villa, Two-Bedroom Villa และRoyal Villas มาพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย และเฟอร์นิเจอร์อันหรูหรา พร้อมสระว่ายน้ำริมชายหาด

VillaMaroc-01
VillaMaroc-01
VillaMaroc-01

2.มาราเกช หัวหิน รีสอร์ท แอนด์ สปา
(Marrakesh Hua Hin Resort & Spa Hotel)

ต่อด้วยอีกหนึ่งที่พักที่ใช้ชื่อ “มาราเกซ” เมืองท่องเที่ยวริมทะเลในประเทศโมร็อกโก ที่ได้ฉายาว่า “City of Red” หนึ่งในเมืองที่มีสีสันสดใส สร้างด้วยดินสีแดง ที่นี่จึงดึงเอาเอกลักษณ์อันโดดเด่นมาผสมผสานกับสไตล์ Neo-Morocco จนได้เป็นรสอร์ทที่อบอวลไปด้วยบรรยายาศแห่งโมร็อกโก โดยที่นี่จะแบ่งออกเป็น 3 โซน ตั้งอยู่คนละตึกใช้ชื่อได้เข้าธีมทะเลทรายมากๆ มีห้องพักทั้งหมด 7 แบบ 2 โทนโดยใช้สีตามความเชื่อของชาวอาหรับในเรื่องแสงแดดและท้องทะเล ได้แก่ สีแดงและสีน้ำเงิน ภายในห้องพักกว้างขวาง ตกแต่งในสไตล์อาหรับและแฝงไปด้วยกลิ่นอายของโมร็อกโก ห้องพักมีระเบียงที่สามารถมองเห็นวิวทะเลได้แบบ 180 องศา มาพร้อมสระว่ายน้ำยาวไปจนถึงชายหาด ให้คุณได้เล่นน้ำพร้อมกับชมวิวท้องทะเลสีฟ้าคราม และยังมีกิจกรรมหลากหลายให้ เช่น การทำสปาสไตล์โมร็อกโก คลาสทำขนม-อาหาร คลาสโยคะ และช่วงบ่ายๆ จิบชา Afternoon Tea มาเยือนที่นี่แล้วได้ครบจริงๆ

Marrakesh_2
Marrakesh_2

Location: ซอยหัวหิน 83/1-85 ถนนเพชรเกษม อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์
Price: ราคาเริ่มต้น 3,700 บาท (ราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลงกรุณาโทรสอบถามล่วงหน้า)
Phone: 032 616 777
Facebook: Marrakesh Hua Hin Resort & Spa
Website: Marrakesh Hua Hin Resort & Spa

3.อัล เมดินา บีช เฮ้าส์, จันทบุรี
(Al Medina Beach House)

“Al Medina Beach House” มนต์เสน่ห์แห่งโมร็อกโกจากชื่อเมืองเก่าในประเทศโมร็อกโกกลายมาเป็นแรงบันดาลใจในการสร้างรีสอร์ท โดยใช้ชื่อเมือง “Medina” มาเป็นชื่อรีสอร์ท ด้วยการตกแต่งรีสอร์ทที่หยิบเอาคงามงามของสถาปัตยกรรมอินเดียผสมผสานกับความเป็นเมดิเตอร์เรเนียน แต่เลือกใช้สีอาคารสีขาวโทนอ่อน ให้ความรู้สึกเรียบหรู มีห้องพักทั้งหมด 9 ห้อง โดยตั้งชื่อตามชื่อเมืองต่างๆ ในโมร็อกโก คือ Marrakech, Fez, Casablanca, Essaouira, Asilah, Tangier, Rabat, Meknes และSale โดยแต่ละห้องได้วิวที่แตกต่างกันอย่างห้อง Marrakech ที่สามารถชมวิวได้ถึง 3 ด้าน ทั้งวิวพระอาทิตย์ตกลับขอบทะเล วิวภูเขาสีเขียวชอุ่ม และวิวท้องทะเลสีคราม สำหรับใครชอบห้องพักที่ได้วิวดีดีแบบนี้แนะนำเลยค่ะ

Al-Medina_1
Al-Medina_1
Al-Medina_1


Location: 
99 หมู่ 7 หาดคุ้งวิมาน ต.คลองขุด อ.นายายอาม จ.จันทบุรี
Price: ราคาเริ่มต้น 3,000 บาท (ราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลงกรุณาโทรสอบถามล่วงหน้า)
Phone: 085 334 3555, 085 155 3333
Facebook: Al Medina Beach House

4.ริยาจ หัวหิน โฮเทล
(Riad Hua Hin Hotel)

“Riad Hua Hin Hotel” ริยาจในภาษาอาหรับ หมายถึง ที่พักที่ซึ่งลรายล้อมไปด้วยต้นไม้และธรรมชาติ โดยได้แรงบันดาลใจมาจากสถาปัตยกรรมสไตล์โมร็อกโกผสมผสานความเป็นเมดิเตอร์เรเนียนด้วยอาคารสีเหลืองสดใส มีห้องพักทั้งหมด 12 ห้อง 3 รูมไทป์ ได้แก่ แมวนอน แมวนั่ง และแมวยืน โดยแต่ละห้องมองเห็นวิวแตกต่างกันออกไป ห้องที่ใหญ่ที่สุดของที่นี่คือ ห้องแมวนอน ซึ่งอยู่ติดกับสระว่ายน้ำ พร้อมจากุชชี่ให้คุณได้นอนแช่ตัวอย่างสบายอุรา ภายในกว้างขวาง โปร่ง โล่งสบาย มีระเบียงให้คุณได้ออกมาถ่ายรูป ชมวิวท้องทะเลเขาตะเกียบได้แบบ 180 องศา

Riad_2
Riad_2

Location: 75 หมู่บ้านหัวดอน ต.หนองแก อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์
Price: ราคาเริ่มต้น 2,000 บาท (ราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลงกรุณาโทรสอบถามล่วงหน้า)
Phone: 089 899 7979
Facebook: Riad Hua Hin hotel

5.บ้านมนตรา บีช รีสอร์ท, ประจวบคีรีขันธ์
(Baan Montra Beach)

ปิดท้ายด้วยรีสอร์ทเล็กๆ ที่ใช้ชื่อไทยๆ แต่แฝงไปด้วยกลิ่นอายของโมร็อกโก ที่มีบ้านพักแบบวิลล่าทั้งหมด 18 หลัง 4 แบบ คือ Studio Poolside Villa, Family Poolside,  Beach Front Villa และ Ocean View Villa วิลล่าแต่ละหลังแยกส่วนกันที่ไม่ว่าคุณจะมาสวีทกับแฟน หรือพาครอบครัวมาเที่ยวก็ไม่ต้องกังวลเรื่องความเป็นส่วนตัว ทั้งยังมีระเบียงและดาดฟ้าให้นั่งชมวิวได้แบบ 360 องศา และมีสระว่ายน้ำ ร้านอาหารวิวทะเลให้คุณได้นั่งรับประทานอาหารท่ามกลางบรรยากาศสุดโรแมนติก ไม่ว่าใครได้มาเยือนที่นี่ก็ต้องตกหลุมรักอย่างแน่นอน

baanmontra-beach15
baanmontra-beach9

Location: 333/1 หมู่ 3 ต.ธงชัย อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์
Price: ราคาเริ่มต้น 2,400-3,800 บาท (ราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลงกรุณาโทรสอบถามล่วงหน้า)
Phone: 089 519 0770
Facebook: บ้านมนตรา บีช รีสอร์ท,หาดบ้านกรูด : Baanmontra Beach Resort
Website: Baanmontra Beach Resort

สัมผัสโมร็อคโคสไตล์ ที่ Villa Maroc Resort

สัมผัสโมร็อคโคสไตล์  ที่ Villa Maroc Resort วันนี้มีอีกหนึ่งที่พักมาแนะนำกัน จริงๆ ที่นี่ไม่ได้เป็นโรงแรมใหม่พึ่งเปิดหรอก  แต่เป็นโรงแรมที่นุ้ยชอบมากนุ้ยชอบที่พักริมทะเล นุ้ยชอบที่พักที่มีดีไซน์เก๋ๆ ไม่ซ้ำใคร โรงแรมนี้ชื่อว่า Villa Maroc  เป็นโรงแรมที่ตั้งอยู่ริมทะเลปราณบุรี  ห่างจากรุงเทพเพียงไม่กี่ชั่วโมง และที่สำคัญ Villa Maroc เป็นโรงแรมที่ดีไซน์สไตล์มาร็อคโคให้ความรู้สึกเหมือนเรากำลังอยู่ในดินแดนที่แตกต่าง …….เพราะฉะนั้น เพื่อนไม่ควรพลาดที่จะอ่านรีวิวนี้ให้จบ มาสัมผัสโมร็อคโคไปพร้อมๆ กัน ว่าเป็นยังไง

นุ้ยจะไม่พูดพร่ำทำเพลงให้เยอะแยะมากมายน๊า เพราะนุ้ยจะพาทุกคนไปสัมผัสทุกซอกทุกมุม เท่าที่จะทำได้นุ้ยใช้เวลาขับรถจากกรุงเทพแค่ประมาณ 3 ชม.นิด แต่เหมือนเจอโลกอีกใบมาถึงที่วิลล่ามาร็อค ตอนประมาณ บ่ายโมงกว่าๆจุดแรกที่เราได้เจอคือล็อบบี้   จะเป็นห้องโล่งๆ เพดานสูงมาก เป็นห้องแบบโอเพ่นแอร์ แต่กลับแปลกที่ไม่ร้อนเลยสักนิด

ทางเดินไปห้องพัก เป็นทางเดินยาวๆ  เป็นเหมือนซุ้มประตูซึ่งบริเวณนี้จะเป็นทางผ่านสระว่ายน้ำ และทางเดินลงหน้าด้วยตลอดทางที่เดินไปห้อง  นุ้ยตื่นเต้นกับทุกมุม  กวาดสายตาไปทั่ว ๆจดบันทึกไว้ในสมอง .. ฉันต้องมาถ่ายมุมนี้  มุนนี้ก็ห้ามพลาด

ผ่านสระว่ายน้ำมา เราจะเข้าสู่โซนที่พักกันจริงๆ แล้ว

ที่นี้จะมีห้องทั้งหมด 6 แบบ รวม 15 ห้อง

แบบแรก เป็นแบบเริ่มต้น ชื่อว่า พูลคอร์ท 

แบบที่สอง แบบพูลวิลล่า 

แบบที่สาม  วิลล่า 1  ห้องนอน

แบบที่สี่ วิลล่า 2  ห้องนอน

แบบที่ห้า โรยัล วิลล่า 1 ห้องนอน

แบบที่หก โรยัล วิลล่า 2 ห้องนอน

เพียงแค่เปิดประตูเข้ามานุ้ยก็ร้องว้าวเลยในทันที

นี่เป็นเพียงแค่ห้องเริ่มต้น แต่ทำไมสวยได้ขนาดนี้

เราคงไม่ต้องบอกแล้วใช่มั๊ยว่าการตกแต่งเป็นแนวโมร็อคโค

ห้องนี้จะใช้โทนสีขาว ตัดด้วยสีน้ำเงินของขอบหน้าต่าง บานประตู

ห้องน้ำก็กว้าง และสวย เมื่อเข้ามาโซนแรก จะเป็นโซนของ อ่างอาบน้ำ และอ่างหน้าหน้า กระจกบานใหญ่

ถัดไปจะเป็นห้องชำระ  และห้องอาบน้ำ

ทุกสัดส่วนดูหรูหรา ข้าวของเครื่องใช้ทุกชิ้นไม่หลุดคอนเซ็ปต์โมร็อคโคเลยสักนิด

เราสามารถมองลงมาจากระเบียงห้องได้เลย

หรือนั่งริมสระว่ายน้ำแบบนี้ก็ชิลล์ไม่ใช่เล่นเลยนะ

มาดูหน้าตาอาหารกันบ้างดีกว่า

วันนี้นุ้ยเลือกทาน moroccan set  มีแอบลุ้นรสชาติว่าจะรอดมั๊ย จะกินได้มั๊ยหนอ?

เริ่มกันที่  Mezze Platter

เป็นแป้งพิต้าอบใหม่ เสิร์ฟมาพร้อมดิพสไตล์โมร็อกโก

แป้งอร่อยดีน๊า   ดิฟส์ก็มีหลายแบบ เมนูนี้อร่อย ให้ผ่านจ้า

ต่อกันเลยที่ Harira Soup

ลุ้นหนักมากกับชามนี้ ซุปมะเขือเทศและผักรวม

พอกินแล้วรสชาติคล้ายๆ ต้มยำน้ำข้นที่ไม่เปรี้ยว และใส่ซอสมะเขือเทศลงไป อะไรประมาณนั้นเลย

กลิ่นเครื่องเทศไม่แรง

เมนูนี้คืออาหารจานหลัก ในเซ็ต จะมีให้เลือก 4 แบบ ทั้งไก่ ขาแกะ ซีฟู๊ด และผัก

นุ้ยเลือกเป็นซีฟู้ด  ชื่อว่า Seafood Tagine

เป็นอาหารทะเลอบสไตล์โมร็อกโก เสิร์ฟมาพร้อมกับคูสคูสผัดเนย (หรือข้าวของโมร็อกโกผัดเนย)

ปิดท้ายด้วย Muhallabia

พุดดิ้งนมกลิ่นกุหลาบ อร่อยหอมๆ นุ่มๆ มันๆ ทานคู่กับชา  อร่อยเลยหล่ะ

ขอบอกว่าต้องลองเลยสำหรับอาหารเซ็ตนี้  มาถึงดินแดนโมร็อกโก ก็ต้องลองใช่ม่ะ

ช่วงเวลาที่เหลือก็เป็นการดื่มด่ำกับบรรยากาศโรแมนติ๊ก โรแมนติก ริมทะเลต่อไปเรื่อยๆ

ทางเดินกลับไปห้องพัก  ค่ำคืนนี้ดูพิเศษจัง  ชอบบรรยากาศแบบนี้

ชอบความรู้สึกแบบนี้ ชอบที่นี่

นอกจากบรรยากาศความเป็นโมร็อกโกแล้ว

สิ่งที่นุ้ยชอบมากที่สุดอีกอย่างของที่นี้ คือการตื่นมานั่งดูพระอาทิตย์ขึ้นตอนเช้า

จะว่าไปมันก็นานมากๆ แล้ว ที่ไม่ได้ตื่นมาดูพระอาทิตย์ขึ้นแบบนี้

ส่วนใหญ่นุ้ยจะเจอแต่ที่พัก นั่งดูแสงเย็น  แต่ที่นี้คือแสงเช้า  การตื่นเช้า เหมือนได้รับพลัง

จากริมระเบียงห้องพัก ของนุ้ยเอง

เพื่อความชิลล์มากขึ้น รับลมทะเลเบาๆ ยามเช้า แสงอ่อนๆ นุ้ยขึ้นมานั่งเล่นบนดาดฟ้า

และลงไปเดินเล่นริมทะเล

นุ้ยว่าความรู้สึกเหล่านี้ เราไม่มีทางถ่ายทอดออกมาได้หมด

ทุกอย่างต้องมาเจอมาด้วยตัวเองเนอะ

ริมสระว่ายน้ำกลางของโรงแรม

บรรยากาศแบบนี้ไม่ต้องไปให้ไกลถึงต่างประเทศ

แค่ปราณบุรี ก็สวยบาดตาบาดใจแล้ว

มุมไหนๆ ก็สวย  ถ่ายรูปเล่นกันให้เพลินไปเลยจ้า 

จนได้เวลาอาหารเช้า  … อาจเป็นเพราะ เดินเยอะไปหน่อย ถ่ายรูปหนักไปนิด 

จัดหนักเลยค่ะ .. มื้อเช้าไม่อ้วนหรอกเนอะ จริงม่ะ 

แม้ที่นี่จะมีห้องพักเพียงแค่ 15 ห้องเท่านั้น 

แต่อาหารเป็นแบบบุฟเฟ่ต์นะ และจัดเต็มซะด้วย มีครบทุกโซน

ไม่ว่าจะเป็นอาหารไทย อาหารโมร็อกโก เบเกอรี่ สลัด เมนูไข่ต่างๆ  ซีเรียส เครื่องดื่ม ก็ครบ 

นุ้ยชอบสไตล์โมร็อกโก เพราะสีสัน และลวดลายนี่แหละ ดูมีเอกลักษณ์ มีเสน่ห์ และให้ความสดใสไปพร้อมๆ กัน 

พลาดไม่ได้กับการทำสปา  ถ้ามีเวลาพอ นุ้ยจะไม่พลาดการทำสปา ในทุกโรงแรมที่เข้าพักเลยค่ะ 

โดยเฉพาะที่นี้  สปาแบบโมร็อกโก  ที่ห้อง SHERAZADE HAMMAM & SPA

เป็นห้องสปา ที่สวยมาก มีลักษณะเป็นอาคารโดมสูง ประดับด้วยโคมไฟ และบานประตูไม้โบราณ  

นี่คือห้องสปา และห้องนี่แหละคือห้งอสำหรับอบไอน้ำ 

สวย หรูหรา แปลกตา มีเสน่ห์ หาคำนิยามได้หลากหลายมาก

 เขาว่ากันว่า สปาของที่นี่ เป็นการนำวิธีการบำบัดที่ดีเลิศของอาหรับมาเลยนะ

ซึ่งสปาตัวที่นุ้ยทำคือตัวซิกเนเจอร์ที่ชื่อว่าฮัมมัมนี่แหละค่ะ  มี 3 ขัดตอนหลัก เริ่มจากการนั่งอบไอน้ำ

ที่มีบ่อน้ำร้อน น้ำเย็น ไหลลงตามกำแพง

หลังจากนั้นจะมีการขัดผิดด้วยสบู่ดำ ตามแบบฉบับฮัมมัมโมร็อกโก

หลังจากนี้ก็จะเป็นการผ่อนคลายทำทรีทเม้นท์นวดน้ำมัน   

นุ้ยช่วงบ่ายๆ พอมีเวลาว่าง นุ้ยได้แว๊บไปถ่ายห้องพักอีกหนึ่ง Room Type มาฝากกัน 

นั่นคือ พูลวิลล่า 1 ห้องนอน  เป็น Room Type ที่สวยมาก 

มีทั้งหมด 4 หลัง  ได้แก่ Villa Shammar , Villa Kammoon , Villa Kuzbra และ Villa Qurfa

ห้องน้ำจะมีทั้งชั้นบนและล่าง 

ตกแต่งด้วยลวดลายโมเสก และไม้แกะสลัก  ยังคงมีความหรูหรา อ่างล่างหน้าสีทอง 

ช่วงเวลาแบบนี้มักเดินทางผ่านไปเร็วเสมอ 

เผลอแปบๆ พรุ่งนี้นุ้ยก็ต้องกลับบ้านแล้วสินะ ที่นี้เป็นวันพักผ่อนที่วิเศษมากๆ  

และแม้ว่าเวลาจะเหลือน้อย แต่เราจะไม่ปล่อยให้มันผ่านเลยไปแบบธรรมดาแน่ๆ  

เพราะคืนนี้เราจะดินเนอร์กันบนดาดฟ้าห้องพักเราจ้า 

เพิ่มดีกรีความชิลล์ ด้วย เครื่องดื่ม สักแก้ว สองแก้ว 

วันนี้อาหารที่สั่งทานจะค่อนข้างหลากหลาย 

เริ่มที่เมนูเรียกน้ำย่อย ด้วยเมนูแซ่บ ๆ อย่างยำหอยเชลล์ ที่บอกได้เลยว่า ต้องสั่ง

แซ่บมาก อร่อยมาก คือดีมากสำหรับเมนูนี้ 

จะว่าไปส่วนใหญ่ที่สั่งมาวันนี้ก็จะเป็นแนวซีฟู๊ดนะ

ไม่ว่าจะยำหอยเชลล์ สเต็กแซลม่อน หอยแมลงภู่อบสมุนไพร 

เช้าวันสุดท้าย 

นุ้ยยังคงตื่นแต่เช้า มาทักทายกับแสงแรกของวัน 

แสงอ่อน ๆ ยามเช้า 

มันทำให้ผ่อนคลาย พร้อมกลับไปสู้กับโลกของความจริงๆ 

รีวิวที่พักหัวหิน Marrakesh Hua Hin Resort & Spa ดีไซน์สวยสไตล์โมร็อกโก

รีวิวที่พักมาราเกซ หัวหิน (Marrakesh Hua Hin Resort & Spa)

อยากพักผ่อนหย่อนใจแบบใกล้กรุงเทพฯ แต่ไม่รู้จะไปไหนดี “หัวหิน” ก็มักจะเป็นตัวเลือกแรกในอันดับต้นของเราเสมอ ปฎิเสธไม่ได้เลยหล่ะว่า เรานี่แหละที่ไปหัวหินค่อนข้างบ่อย บางช่วงไปทุกสองอาทิตย์ ติดใจอะไรก็ไม่รู้ แต่ที่รู้ก็คือหัวหินช่วยเยียวยาจิตใจของเราได้มาก ยิ่งได้ที่พักหัวหินติดทะเลบรรยากาศดี บอกเลยว่าฟินมาก และครั้งนี้หัวใจมันเซทะเลคือจุดหมาย เลยได้มาหัวหินกันอีกสักครา แต่รอบนี้ไม่ค่อยอยากออกไปไกลเมืองมาก เน้นที่พักหัวหินทำเลดี บรรยากาศก็อยากได้แบบติดทะเล สุดท้ายก็ได้มาพักที่พักหัวหินมาราเกซ หัวหิน (Marrakesh Hua Hin Resort & Spa) แห่งนี้นั่นแหละ

Processed with VSCO with a6 preset

ข้อดีของที่พักหัวหินมาราเกซ หัวหิน ก็คืออยู่ในเมือง ไม่ไกลจากห้างบลูพอร์ตเท่าไหร่ แถมยังติดทะเล ชนิดที่ไม่ต้องออกแรงเดินให้เมื่อย มองจากห้องพักก็จะเห็นวิวทะเลเลย ถึงแม้ราคาห้องในรอบนี้ จองมาแบบไม่ใช่ Sea View ชะโงกหน้าจากระเบียงก็จะเห็นทะเลอยู่ลิบๆ ภายในราคานี้ สำหรับห้องพักในรอบนี้จองมาราคา สองพันกว่าบาทเกือบสามพัน ก็ถือว่าคุ้มค่าอยู่ไม่ใช่น้อย ที่สำคัญมาราเกซ ยังตกแต่งโดนใช้คอนเซ็ปท์ดีไซน์โมร็อกโก สีสันสดใส เดินถ่ายรูปได้ทั่วทั้งโรงแรมเลย

Processed with VSCO with a6 preset

นี่คือทางเข้าของที่พักหัวหินมาราเกซ ซึ่งหลายคนอาจจะยังคงสับสน เพราะแต่เดิมทีส่วนที่เป็นโรงแรม และเรสซิเดนซ์จะสามารถเดินทะลุเชื่อมกันได้ แต่ในตอนนี้แม้กระทั่งทางเข้า จะถูกแยกออกจากกันโดยสิ้นเชิง ทำให้ไม่สามารถข้ามไปมาระหว่างสองโรงแรมได้อีกต่อไปแล้ว

Processed with VSCO with a6 preset

ทางเดินเข้าไปล็อบบี้ จะบอกว่าเราชอบมุมนี้มากที่สุดเลย เพราะว่าโทนสีขาวดูสะอาดตา บริเวณโถงทางเดินมีความมืดทึม ให้ความรู้สึกลึกลับหน่อย แต่เมื่อเดินออกไปยังล็อบบี้ ก็จะเจอล็อบบี้สไตล์โมร็อกโกสวยๆ โทนสีชมพู พร้อมรายล้อมไปด้วยธรรมชาติ เป็นที่พักหัวหินมาราเกซ ที่ไม่ว่าจะหันไปมองทางไหนก็สบายตาทั้งนั้น

Processed with VSCO with a6 preset
Processed with VSCO with a6 preset

เชื่อว่าสาวๆ หลายคนจะต้องถูกอกถูกใจที่พักหัวหินมาราเกซนี้อย่างแน่นอน เพราะมีมุมสวยให้ถ่ายรูปเพียบ อย่างมุมนี้ก็เป็นอีกหนึ่งมุมยอดฮิตของเหล่า instagrammable พลาดไม่ได้เลยอันขาด แนะนำว่าใครที่จะมาพักที่พักหัวหินมาราเกซให้เตรียมสุดสีสันสดใสมา เวลาถ่ายรูปออกมาเด่นแน่นอน

Processed with VSCO with a6 preset
Processed with VSCO with a6 preset

ส่วนใหญ่ที่พักหัวหินมาราเกซนี้จะเน้นโทนสีสันสดใสต่างๆ เพราะว่ามีแรงบันดาลใจมาจากสถาปัตยกรรมแบบโมร็อกโก นอกจากนั้นเองก็ยังมีมุมสวยให้ถ่ายรูปเยอะมาก เอาจริงแค่เดินเล่นไปตามทางเดินก็ได้รูปสวยแล้ว อยากเปลี่ยนบรรยากาศ หรือใครที่ชอบถ่ายรูปอยู่เป็นทุนเดิม ไม่ควรพลาดที่จะมาเยือนที่พักหัวหินมาราเกซแห่งนี้เลย ถึงแม้ตัวที่พักหัวหินมาราเกซนี้จะไม่ใหญ่มาก แต่อยู่ติดทะเล และตั้งอยู่ในเมืองคือถือว่าดี

Processed with VSCO with a6 preset
Processed with VSCO with a6 preset
Processed with VSCO with a6 preset
Processed with VSCO with a6 preset

มาถึงการรีวิวห้องพักหัวหินมาราเกซกันบ้าง เอาเป็นว่าถูกใจสายแช่อ่างแน่นอน เพราะว่าที่นี่ เค้าจะเน้นการมีอ่างให้แช่กันชิลล์ภายในห้องพัก ขนาดที่พักมาราเกซที่ไม่ใช่ type หรูหราอะไร ก็ยังมีจากุซซี่ให้แช่กันตรงริมระเบียง แถมยังสามารถกดเลื่อนม่านมาบังเพื่อความเป็นส่วนตัวได้อีก ที่ถูกใจอีกอย่างคือห้องน้ำขนาดใหญ่เบิ้ม แยกโซนเปียก และแห้งให้เรียบร้อย ตกแต่งมาในสไตล์อาหรับอาละดินจ๋ามาก

Processed with VSCO with a6 preset
Processed with VSCO with a6 preset

ไฮไลท์ของห้องน้ำที่พักหัวหินมาราเกซนี้ ไม่ได้แค่ความว้าวจากการแยกโซนเปียก และโซนแห้งเท่านั้น แต่ยังมีมุมเล็กๆ ที่เปรียบเสมือนเป็นตู้เสื้อผ้าขนาดย่อมด้วยเช่นกัน แถมยังมีชุดคลุมอาบน้ำ และผลิตภัณฑ์ต่างๆ อย่างเช่นแปรงสีฟัน สบู่ ยาสระผม ให้ครบ มาเที่ยวหัวหินแต่ตัวทัวร์ยกแก๊งค์ยังได้เลย

Processed with VSCO with a6 preset
Processed with VSCO with a6 preset
Processed with VSCO with a6 preset

หนึ่งในมุมโปรดที่ชอบมากที่สุดก็ต้องยกให้กับมุมนี้เลย เป็นมุมอ่างจากุซซี่ที่ตั้งอยู่ริมระเบียง หากใครที่มากับแฟน หรือมาทริปสวีทบอกเลยว่าฟิน ยิ่งตอนกลางคืนจุดเทียนสลัว จิบไวน์ เป็นมุมที่โรแมนติกมาก ที่ชอบอีกอย่างคือบริเวณระเบียงก็มีความกว้างขวาง ที่สำคัญคือถ้ามองเลยไปอีกนิดหนึ่งก็จะเห็นวิวทะเลด้วย

Processed with VSCO with a6 preset
Processed with VSCO with a6 preset

เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ทำให้เราประทับใจที่พักหัวหินมาราเกซอย่างเป็นที่สุด เพราะว่าบริเวณระเบียงห้องพักที่เราจองมาสามารถมองเห็นวิวทะเลได้ ที่ถึงแม้จะไม่ได้เป็นวิวทะเลตรงๆ ก็เหอะ เท่านี้ก็ประทับใจเพราะเท่ากับเหมือนจ่ายห้องราคา Duplex แต่ว่าได้วิวราคา Sea View กันไปเลย ตอนดึกๆ ก็ออกมานอนแช่อ่างจากุซซี่พร้อมฟังเสียงคลื่นทะเลไปเพลินๆ

Processed with VSCO with a6 preset
Processed with VSCO with a6 preset
Processed with VSCO with a6 preset
Processed with VSCO with a6 preset

หลังจากเก็บกระเป๋าพักผ่อนสักนิดให้หายเหนื่อยแล้วนั้น ทางเราก็ออกมาเดินเล่นผ่านสระว่ายน้ำมา ก็จะเห็นว่าถึงแม้สระว่ายน้ำจะไม่ได้มีขนาดใหญ่มาก แต่ก็มีไฮไลท์เด็ดตรงที่สามารถมองเห็นวิวทะเลได้แบบตรงๆ เราชอบบรรยากาศแบบนี้มาก ทำให้รู้สึกผ่อนคลาย เหมือนได้ใกล้ชิดทะเลจริง อยากจะออกมาเดินเล่นรับลมทะเลยังไงก็ได้ สบายใจมาก แถมในส่วนบริเวณพื้นหญ้าเทียม ในตอนเย็นจะมีการนำเอาบีนแบ็คออกมา ให้นั่งชิลล์ หรือสั่งอาหารไปพร้อมกับชมวิวทะเลแสนสวยได้อีกด้วย

Processed with VSCO with a6 preset
Processed with VSCO with a6 preset

นอกเหนือจากร้านอาหารในตอนเย็นแล้ว หลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่าที่พักหัวหินมาราเกซเองนี้นั้น ก็ยังมีห้องอาหารที่เปิดตอนกลางวันด้วย สำหรับเมนูที่แนะนำก็จะเป็นพวกเซ็ทน้ำชาต่างๆ ใครที่ชอบดื่มชาก็ไม่อยากให้พลาด เพราะเป็นชาสไตล์อาหรับ ที่จะมีกลิ่นหอมของเครื่องเทศ เวลาดื่มแนะนำให้เติมน้ำผึ้ง หรือว่ามะนาวเข้าไป จะช่วยทำให้รสชาหอม และกลมกล่อมมากขึ้นด้วยนะ

Processed with VSCO with a6 preset
Processed with VSCO with a6 preset
Processed with VSCO with a6 preset

ในส่วนของห้องอาหารตอนกลางวันนี้ พอถึงเวลาตอนเช้าก็จะถูกเปิดเป็นห้องอาหารเสิร์ฟบุฟเฟ่ต์ตอนเช้าเช่นเดียวกัน ใครหิวๆ ไม่อยากออกไปด้านนอกโรงแรม ก็สามารถสั่งรูมเซอร์วิท สั่งอาหารไปกินในห้องได้เช่นเดียวกัน ในระหว่างนี้เราก็เดินเล่น ชมวิว ถ่ายรูปไปเรื่อยๆ เพื่อรอให้ส่วนของอาหารเย็นเปิด จะได้จองไปนั่งชมวิวทะเลแบบเอ็กซ์คลูซีฟ

Processed with VSCO with a6 preset
Processed with VSCO with a6 preset
Processed with VSCO with a6 preset
Processed with VSCO with a6 preset
Processed with VSCO with a6 preset

เพราะว่าห้องอาหารของที่พักหัวหินมาราเกซนี้มองเห็นวิวทะเลได้แบบเต็มตา เราเลยตัดสินใจดินเนอร์กันที่นี่ไปเลย จะได้ไม่ต้องให้ออกไปข้างนอกให้เสียเวลา สำหรับเมนูที่สั่งมากินก็จะมีตั้งแต่ หมี่แกงปูใบชะพลู รสชาติกลมกล่อมไม่เผ็ดมากนัก คนที่ไม่กินเผ็ดกินได้สบายแน่นอน ที่ถูกใจมากที่สุด ก็ต้องยกให้กับแซลมอนไปเลย เพราะย่างมาแบบพอดีมาก ด้านนอกสุก แต่ด้านในจะมีความดิบอยู่บ้าง ทำให้เนื้อแซลมอนไม่แข็งจนเกินไป แต่ถ้าใครไม่ชอบกินแซลมอนดิบเลย แนะนำให้เชฟทำสุกไปเลยค่ะ

Processed with VSCO with a6 preset
Processed with VSCO with a6 preset
Processed with VSCO with a6 preset
Processed with VSCO with a6 preset
Processed with VSCO with a6 preset

ขอลาทริปที่พักหัวหินมาราเกซนี้กันไปด้วยเซ็ทอาหารเช้า ที่เป็นแบบบุฟเฟ่ต์ ซึ่งทริปนี้ไปก่อนที่จะเกิดโควิด ซึ่งก็ไม่รู้ว่าต่อไปนี้ทางโรงแรมจะมีการปรับมาตรการเป็นแบบใดบ้าง ทั้งนี้เราก็ยังขอยืนยันว่าที่พักหัวหินมาราเกซเป็นอีกหนึ่งโรงแรมที่เราชื่นชอบ มีข้อดีหลายอย่างที่เราค่อนข้างเซอร์ไพรส์ ก็ยังจะแนะนำให้ใครหลายคนที่กำลังมองหาที่พักหัวหินที่ดี ติดทะเล ราคาไม่แพง และมีมุมถ่ายรูปสวยๆ รับรองว่าคุ้มค่าราคาที่จ่ายไปแน่นอน

รีวิวที่พักโรงแรมในโมร็อคโก ที่พักโรงแรมในโมร็อคโก

รีวิวที่พักหัวหิน Marrakesh Hua Hin Resort & Spa ดีไซน์สวยสไตล์โมร็อกโก

5 ที่พักสไตล์โมรอคโคติดทะเล นอนเก๋แบบหรูหรา สายแฟชั่นนิสต้ารักเซลฟี่ไม่ควรพลาด

ถึงจะเข้าช่วงหน้าฝนเราก็ไม่กลัว เพราะใช่ว่าจะตกกันทุกวันใช่มั้ย ฉะนั้นมั่นดูพยากรณ์อากาศ แล้วมาเสี่ยงดวงกันสักหน่อยดีกว่า แถมช่วงโลว์ซีซั่นแบบนี้ราคาแบบว่าลดกระหน่ำกันสุดๆ วันนี้เป็ดน้อย Tripgether เลยแวะมาแนะนำที่พักสวยสไตล์โมรอคโค เรียบหรูดูแพง ให้ฟิลลิ่งเหมือนไปพักผ่อนที่ต่างประเทศกันเลย คัดมาแบบเฉพาะที่ติดทะเล เห็นวิวทะเลสวยจากในห้องพัก สายแฟชั่นนิสต้า รักการเซลฟี่ขอบอกว่าไม่ควรพลาด ควรเก็บให้หมดทุกโลเคชั่น ลุย!

ab_1

1.Villa Maroc Resort ( วิลล่า มารอค รีสอร์ท )

เริ่มต้นกันที่รีสอร์ทสุดหรูติดทะเลปราณบุรีอย่าง “วิลล่า มารอค รีสอร์ท” ที่นี่ได้รับแรงบัลดาลใจในการออกแบบมาจากสถาปัตยกรรมโมรอคโค แถมบรรยากาศยังสุดเงียบสงบ ล้อมรอบด้วยป่าและภูเขา ด้านหน้าพบกับชายหาดสีขาวและน้ำทะเลสีฟ้า ตัดเข้ากันกับสีของรีสอร์ทอย่างงดงาม ห้องพักที่นี่ก็มีหลากหลาย ทั้งแบบพูลคอร์ท พูลวิลล่า และรอยัลวิลล่า ภายในตกแต่งเรียบง่ายสไตล์โมรอคโค ที่สำคัญเห็นวิวทะเลจากในห้องกันเลย แถมยังรองรับงานแต่งงานอีกด้วย สำหรับใครที่ชื่นชอบศิลปะในแบบโมรอคโค อยากเปิดประสบการณ์ใหม่ๆ ขอบอกเลยว่าห้ามพลาด

Maroc_1
Maroc_1
Maroc_1
Maroc_1
Maroc_1

Location: 165/3 หมู่ 3 ต.ปากน้ำปราณ อ.ปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์
Price: ราคาเริ่มต้น  10,700 – 29,200 บาท ราคารวมอาหารเช้า
Phone:  032 630 771
Facebook: Villa Maroc Resort

2.Marrakesh Huahin Resort & Spa ( มาราเกช หัวหิน รีสอร์ท แอนด์ สปา )

รีสอร์ทสวยมีสไตล์ติดชายหาดหัวหิน โดดเด่นด้วยดีไซน์แบบนีโอโมรอคโค สวยงามเหนือกาลเวลา อีกทั้งยังมีสระว่ายน้ำแบบอินฟินิตี้ริมทะเล ชมวิวกันแบบสุดฟิน ในส่วนของห้องพักมี 7 แบบ ต่างสไตล์ ทั้งแบบจากุซซี่ พูลวิว โอเชี่ยนฟร้อนท์ ตกแต่งได้อย่างเรียบหรู สีสันสบายตา นอกจากนี้ยังมีห้องอาหาร อัล ฮัมรา เสริฟอาหารรสชาติต้นตำรับโมรอคโคแท้ๆ แถมยังมีมุมบาร์ริมทะเล ให้รับลมชมวิวพระอาทิตย์ตก บรรยากาศแสนโรแมนติก เหมาะกับการพาคู่รักมาฮันนีมูนเป็นที่สุด “มาราเกช หัวหิน รีสอร์ท แอนด์ สปา ”

makaresh_1
makaresh_1
makaresh_1
makaresh_1
makaresh_1

Location: ระหว่าง ซ.หัวหิน 83/1-85 ถ.เพชรเกษม ต.หนองแข อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์
Price: ราคาเริ่มต้น  2,800 – 19,500 บาท 
Phone:  032 616 777 
Facebook: Marrakesh Hua Hin Resort & Spa

 3.Absolute Sanctuary Hotel
( แอบโซลูท แซงชัวรี โฮเต็ล )

ต่อกันที่ “แอบโซลูท แซงชัวรี โฮเต็ล” รีสอร์ทสุดสวยบนเกาะสมุย เอาใจคนรักสุขภาพกันสุดๆ มีทั้งกิจกรรม โยคะ ฟิตเนส และสปา แถมยังเสริฟอาหารแบบออแกนิค แคลลอรี่ต่ำกันอีกด้วย ในส่วนห้องพัก มีทั้งหมด 3 รูปแบบ ตกแต่งสวยเรียบง่ายในสไตล์โมรอคโค ผ่านลวดลายและสีสันที่ดูผ่อนคลาย อีกทั้งยังครบครันด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย เป็นอีกหนึ่งรีสอร์ทสวยบรรยากาศดี สายเฮลท์ตี้รักสุขภาพต้องประทับใจกันอย่างแน่นอน

ab_1
ab_1
ab_1
ab_1
ab_1

Location: 88 หมู่ 5 ต.บ่อผุด อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี
Price: ราคาเริ่มต้น 2,800 – 6,000 บาท ราคารวมอาหารเช้า
Phone:  077 601 190 – 9, 077 247 810 
Facebook: Absolute Sanctuary

4.Riad HuaHin Hotel
( โรงแรมริยาจ หัวหิน ) 

อีกหนึ่งที่พักสวย ห่างจากชายหาดหัวหินเพียง 3 าที ตกแต่งดีไซน์สวยในสไตล์โมรอคโค โดดเด่นด้วยรูปแบบหน้าต่างปูนแบบโค้งและตึกสีเหลืองนวล ตัดกับสีของสระว่ายน้ำกลางรีสอร์ท อีกหนึ่งความน่ารักที่นี่จะมีน้องแมวคอยต้อนรับ ภายในเลยถูกตกแต่งด้วยน้องแมวตามจุดต่างๆ ได้อย่างน่ารัก ในส่วนของห้องพักก็มีหลายแบบ ตกแต่งเน้นโทนสีขาวเรียบง่าย แถมยังบริการได้อย่างน่ารักเป็นกันเอง สำหรับทาสแมวทั้งหลายควรแก่การจดไว้ในลิสต์เป็นที่สุด “โรมแรมริยาจ หัวหิน”

riad_1
riad_1
riad_1
riad_4
riad_1

Location: 75 หมู่บ้านหัวดอน ต.หนองแข อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์
Price: ราคาเริ่มต้น 1,600 – 2,300 บาท ราคารวมอาหารเช้า
Phone: 089 899 7979
Facebook: Riad Hua Hin hotel

5.Al Medina Beach House
( อัล เมดิน่า บีช เฮ้าส์ )

ปิดท้ายกันที่พักริมทะเลหาดคุ้งวิมาน ขนาดเล็กน่ารัก “อัล เมดิน่า บีช เฮ้าส์” ที่ให้ความรู้สึกเหมือนมาเที่ยวที่บ้านพักตากอากาศส่วนตัว ที่นี่ออกแบบดีไซน์ในสไตล์โมรอคโคผสมอินเดียนเมดิเตอร์เรเนียน ห้องพักมีทั้งหมด 9 ห้อง ตกแต่งได้อย่างสวยงามเรียบหรู แต่ละห้องให้ความรู้สึกต่างกันออกไป แถมทุกห้องยังสามารถชมวิวทะเลและพระอาทิตย์ตกได้แบบเต็มตากันเลย และที่นี่ยังต้อนรับน้องหมาน้องแมวอีกด้วยนะ อบอุ่นสะดวกสบายเหมือนมาพักผ่อนที่บ้านของเราเลยจริงๆ

al_4
al_4
al_4
al_4
al_4

Location: 99 หมู่ 7 หาดคุ้งวิมาน ต.สนามไชย อ.นายายอาม จ.จันทบุรี
Price: ราคาเริ่มต้น  4,500 บาท ราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลงกรุณาโทรสอบถามอีกครั้ง
Phone:  085 334 3555,085 155 3333

5 ที่พักสไตล์โมรอคโคติดทะเล นอนเก๋แบบหรูหรา สายแฟชั่นนิสต้ารักเซลฟี่ไม่ควรพลาด